บทวิเคราะห์บุคลิกผิวของคุณ
คุณสามารถ คลิก ดูรายละเอียดส่วนต่างๆ ได้ทันที
• ส่วนที่ 1 ภาพรวมบุคลิกผิว DSPT
• ส่วนที่ 2 สภาพผิว ปัญหาผิว และแนวโน้มการเกิดปัญหาผิว
• ส่วนที่ 3 เป้าหมายในการแก้ไขปัญหาผิว DSPT
ส่วนที่ 1
ภาพรวมบุคลิกผิว DSPT
บุคลิกผิวของคุณคือ
Dry, Sensitive, Pigmentation and Tight
ผิวแห้ง ระคายเคืองได้ง่าย สีผิวไม่สม่ำเสมอ และมีความเต่งตึง

“เรารู้ถึงความจำเป็นของการใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์ แต่มันมีให้เลือกเยอะแยะไปหมด มีอันไหนบ้างที่จะช่วยแก้ปัญหาผิวบอบบางและจุดด่างดำได้ หรือถ้าหากว่าต้องใช้หลายๆ ผลิตภัณฑ์ ควรจะใช้สกินแคร์ปรับสีผิวก่อน หรือมอยส์เจอร์ไรเซอร์ก่อนดี”
ส่วนที่ 2
สภาพผิว ปัญหาผิว และแนวโน้มการเกิดปัญหาผิว
ส่วนที่ 2
สภาพผิว ปัญหาผิว และ
แนวโน้มการเกิดปัญหาผิว

สภาพของผิว DSPT
ประเภทของผิว DSPT ต้องการการบำรุงรักษาอย่างเข้มข้นเพื่อให้ได้โทนสีผิวที่มีสุขภาพดีพร้อมความชุ่มชื้น และความต้านทานของผิวต่อสภาพแวดล้อมในชีวิตประจำวัน หากไม่มีการดูแลประจำวันที่ถูกต้องและสม่ำเสมอ มันอาจส่งผลต่อผิวแพ้ง่ายบอบบาง และจะต้องประสบกับปัญหาหนักใจหลากหลายประการ
ปัญหาของบุคลิกผิว DSPT
ผิว DSPT นั้นแห้ง แพ้ง่าย มีสีคล้ำ และตึงกระชับ ซึ่งอธิบายได้ว่าทำไมผิวประเภทนี้จึงดูแลได้ยาก ไม่เพียงแต่ผิวแห้งเท่านั้น แต่ยังสามารถระคายเคืองได้ง่ายจากส่วนผสมต่างๆ มากมาย ทำให้การค้นหากิจวัตรการดูแลผิวที่สมบูรณ์แบบนั้นค่อนข้างยุ่งยาก
ประการแรกและสำคัญที่สุด ผิว DSPT มีเกราะป้องกันผิวที่บกพร่องซึ่งนำไปสู่ความแห้งกร้านซึ่งแสดงออกถึงความหยาบกร้าน ขาดความกระจ่างใส ลอกเป็นขุย ความแห้งกร้านจะเลวร้ายที่สุดเมื่อระดับความชื้นลดลงเมื่ออากาศเย็นลง อากาศในฤดูหนาวเริ่มแห้งมากขึ้น การซ่อมแซมเกราะป้องกันผิวเพื่อป้องกันการระเหยของน้ำออกจากผิวเป็นสิ่งสำคัญที่สุด หากปล่อยไว้ไม่ได้รับการดูแลผิวอย่างเหมาะสม จะส่งผลทำให้โครงสร้างผิวอ่อนแอหนักขึ้นเกิดปัญหาผิวอื่นๆ บานปลายตามมาได้อย่างต่อเนื่อง และทำให้การดูแลผิวยุ่งยากและใช้เวลานานยิ่งขึ้น
แนวโน้มการเกิดปัญหาผิว DSPT
ผิว DSPT ที่ไม่ได้รับการดูแลอย่างถูกวิธีและเหมาะสมกับบุคลิกผิวตั้งแต่เนิ่นๆ หรือมีการดูแลผิวอย่างไม่เหมาะสมเป็นเวลานาน สามารถทำให้บุคลิกผิว DSPT พบเจอกับปัญหาผิวเหล่านี้ได้ และยังมีปัญหาที่ซุกซ่อนอยู่ใต้ผิวที่ทำให้ยากต่อการดูแลรักษาแก้ปัญหาผิวในอนาคตได้
(หากไม่ได้รับการดูแลผิวอย่างถูกต้อง เสี่ยงเกิดปัญหาผิวที่รุนแรงและขยายตัวมากขึ้น)

ผิว DSPT มีเกราะปกป้องผิวที่บกพร่องส่งผลให้เกิดการระเหยของน้ำจากผิวของผิวหนังขึ้น ซึ่งเรียกว่าการสูญเสียน้ำผ่านผิวหนัง (Transepidermal Water Loss หรือ TEWL) เมื่อ TEWL มีมากขึ้น ผิว DSPT ก็จะเสี่ยงต่อการเป็นกลาก หรือที่เรียกว่าโรคผิวหนังภูมิแพ้ กลากเป็นผิวแห้งที่ปรากฏขึ้นเป็นหย่อมๆ เป็นสะเก็ดผิวหนังสีแดงบนร่างกาย พวกมันอาจทำให้คันมาก แต่การเกาจะทำให้อาการแย่ลงและนำไปสู่การติดเชื้อ การใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่เหมาะสมสามารถช่วยบรรเทาอาการได้

ผิว DSPT มักประสบปัญหาสิว คลีนเซอร์และมอยเจอร์ไรเซอร์ซ่อมแซมเกราะปกป้องผิวที่เหมาะสมจะต้องใช้ร่วมกัน ผลิตภัณฑ์ทุกชิ้นที่คุณใช้ในการดูแลผิวมีบทบาทสำคัญและควรเลือกอย่างระมัดระวัง

ผิว DSPT มีความอ่อนไหวต่อการอักเสบไม่ว่าจะเป็นสิว โรคผิวหนังอักเสบ โรคภูมิแพ้หรือโรคเรื้อนกวาง การอักเสบเป็นกระบวนการที่ซับซ้อน ซึ่งเกี่ยวข้องกับหลายเส้นทางที่นำไปสู่การกระตุ้นเซลล์ที่ผลิตเม็ดสีที่เรียกว่าเมลาโนไซต์ เมื่อเมลาโนไซต์ผลิตเมลานิน จะเกิดเม็ดสีสีน้ำตาลหรือดำขึ้น ผิว DSPT มีความอ่อนไหวต่อการเกิดเม็ดสีที่ไม่สม่ำเสมอในบริเวณดังกล่าว การผลิตเม็ดสีนี้มีแนวโน้มมากขึ้นเมื่อผิวสัมผัสกับแสงแดด ดังนั้นครีมกันแดดและการป้องกันผิวจากแสงแดดจึงเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง
ลองสังเกตผิวหน้าตัวเองอย่างละเอียดสัก 30 วินาที ว่าพบปัญหาผิวตามที่กล่าวมาหรือไม่ โดยสถิติปัญหาผิวจะเพิ่มมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด 2-3 เดือน หากไม่ได้รับการดูแลบำรุงผิวอย่างถูกต้อง
ลองสังเกตผิวหน้าตัวเองอย่างละเอียดสัก 30 วินาที ว่าพบปัญหาผิวตามที่กล่าวมาหรือไม่ โดยสถิติปัญหาผิวจะเพิ่มมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด 2-3 เดือน หากไม่ได้รับการดูแลบำรุงผิวอย่างถูกต้อง
ส่วนที่ 3
เป้าหมายในการแก้ไขปัญหาผิว DSPT
เป้าหมายของกิจวัตรการดูแลผิวของคุณ เพื่อแก้ปัญหาผิวตามลำดับ คือ
1. การบำรุงเกราะป้องกันผิวให้กลับมาแข็งแรง สามารถเก็บกักน้ำได้ (เพื่อให้ผิวแห้งน้อยลง) และปกป้องผิวจากสารก่อภูมิแพ้และสารทำให้เกิดความระคายเคือง (เพื่อให้ผิวของคุณไม่เปราะบาง) เพื่อที่จะทำให้เป้าหมายนี้สำเร็จ คุณจำเป็นต้องใช้ผลิตภัณฑ์ที่เสริมเกราะป้องกันผิว สิ่งนี้จะช่วยปกป้องคุณจากการอักเสบ
2. การจัดการกับจุดด่างดำ ด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมที่ทำให้รอยหมองคล้ำลดลง พร้อมปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ

(ผลจากการสำรวจในปี 2021 Derma Mentor พบว่าผู้คนมากกว่า 95% ดูแลผิวไม่ตรงจุดและมักจะดูแลผิวที่ปลายเหตุ ทำให้แนวโน้มการเกิดปัญหาผิวยังคงเกิดขึ้นซ้ำๆ และขยายวงกว้างมากขึ้น)
ผู้คนส่วนใหญ่มักดูแลแก้ปัญหาผิวหน้าผิวตามที่ตาเห็นเท่านั้น ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาผิวที่ปลายเหตุ นอกจากผิวจะไม่ได้รับการดูอย่างเหมาะสมแล้ว ยังสามารถสร้างปัญหาซุกซ่อนไว้ใต้ผิวหนังโดยที่คุณไม่รู้ตัวได้และทำให้คุณไม่สามารถมีสุขภาพผิวที่ดี แข็งแรง ได้ตามที่ต้องการได้